บ้านดอนคา ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง เป็นหมู่บ้านที่แม่บ้านใช้เวลาว่างตัดเย็บมุ้งขายตั้งแต่อดีตจากรุ่นพ่อพ่อแม่สู่รุ่นลูก ถึงปัจจุบันมีการสืบสานรวมตัวตั้งกลุ่มต่อยอดพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ทั้งรูปแบบและคุณภาพ ขายสร้างงานสร้างรายได้ให้ชุนชนจนมีชื่อเสียงด้านการตัดเย็บมุ้งของจังหวัดสุพรรณบุรี มีหน่วยงานเกือบทั่วประเทศสนใจพากลุ่มอาชีพมาศึกษาดูงานไม่ขาดสาย
ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรดอนคา ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นกลุ่มตัดเย็บมุ้ง ที่มีชื่อเสียงมีคุณบังอร โพธิ์พันธุ์ เป็นประธานกลุ่ม คุณบังอร เล่าความเป็นมาของการตั้งกลุ่มตัดเย็บมุ้งว่า สมัยบรรพบุรุษ ได้นำดอกฝ้ายมาปั่นเป็นด้ายแล้วทอเป็นผ้าผืนใหญ่ ก่อนนำมาตัดเย็บด้วยมือติดกันเป็นทรงสี่เหลี่ยม เรียกว่ามุ้ง เพื่อกางนอนป้องกันยุง แมลงและสัตว์ต่างๆ จากที่ใช้ในครอบครัวตัวเองเองก่อน เมื่อสมัยก่อนยุงเยอะ หลังจากที่ลองตัดเย็บมุ้งใช้เองแล้วใช้ดี จึงมีการบอกต่อเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ตัดเย็บมุ้ง ทั้งในหมู่บ้านและต่างหมู่บ้าน มีการสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ พ่อกับแม่ก็มองเห็นรายได้ จึงเริ่มตัดเย็บมุ้งขายอย่างจริงจังขึ้น โดยชักชวนลูกหลานญาติพี่น้อง ให้ใช้เวลาว่างจากการทำไร่ทำนามาตัดเย็บมุ้งขายกัน จากขายในหมู่บ้าน ก็ออกเร่ขาย ขยายตลาดไปต่างอำเภอต่างจังหวัด
กระทั่งมาถึงรุ่นของตนหลังจากที่ทำร่วมกับพ่อแม่ มาหลายปีจนชำนาญรู้วิธีการตัดเย็บการตลาด จนมีครอบครัวจึงแยกตัวออกมาทำเอง แล้วชักชวนเพื่อนๆแม่บ้านที่ว่างงานมาร่วมตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรดอนคา ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 มีสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มประมาณ 30 คน หลังจากจัดตั้งกลุ่มได้มีหน่วยงาน เข้ามาสนับสนุนให้ความรู้การตัดเย็บที่ได้มาตรฐานการพัฒนารูปแบบ ทันสมัย เพื่อสอดรับกับความต้องการของลูกค้า จนมาถึงปัจจุบัน ทางกลุ่มได้มีการพัฒนา แพ็กเก็จ เนื้อผ้าที่มีคุณภาพ จากเมื่อก่อนจะซักเครื่องซักผ้าไม่ได้แต่ปัจจุบัน เราได้หาผ้าที่สามารถใช้ซักเครื่องซักผ้าได้มีอายุการใช้งานนานขึ้น ถึง 20-30 ปี รูปแบบมุ้งนอกจาก มุ้งสี่เหลี่ยมแล้วยังมี มุ้งลูกไม้ มุ้งผ้าฝ้าย มุ้งสี มุ้งสี่ประตู มุ้งกระโจม มุ้งครอบ ผ้าขาวบาง ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน การตัดเย็บมุ้งของกลุ่มแม่บ้าน บ้านดอนคา นับเป็นการนำภูมิปัญญาของปู้ย่าตาทวด ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นมาประยุกต์พัฒนาต่อยอดสร้างงานสร้างอาชีพ เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าที่ไม่มีวันตาย ขายได้ทั้งปีถึงแม้ยุคนี้จะเป็นยุคมุ้งลวดแล้วก็ตาม การเย็บมุ้งเมื่อก่อนรายได้เสริมจากการทำนาสามชิกกลุ่มจากเมื่อหลายปีก่อนเป็นอาชีพเสริมจากการทำนา แต่ปัจจุบันการเย็บมุ้งกลายเป็นอาชีพหลัก เพราะทำนาขาดทุนราคาข้าวตกต่ำ เย็บมุ้งมีรายได้ ถึงเดือนละ 8,000 – 10,000 บาทจึงเป็นการสร้างรายให้กับชุมชนตลอดไป
คุณบังอร เปิดเผยว่ากลุ่มของเรานอกจากผลิตภัณฑ์ มุ้งของกลุ่มแล้วยังมีสินค้าอีกหลากหลายให้ผู้ที่สนใจ ได้เลือกซื้อเลือกหา ช่วงที่มีการแพร่กระจายของฝุ่น PM 2.5 มีลูกค้าสั่งซื้อมุ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย และยิ่งมาช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกซึ่งเป็นอันตราย ก็ยิ่งมีลูกค้าสั่งมุ้งเพิ่มมากขึ้น ส่วนตลาดของเรานอกจากที่ตั้งกลุ่มแล้วยังเปิดตลาดออนไลน์ลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้หลายช่องทางทั้ง ชอปปี้ ลาซาด้า หรือทางเพจ ของกลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรดอนคา หรือที่เวบไซต์
http://www.มุ้งแม่บ้านสุพรรณบุรี.com ID line 0867514329 ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อไปขายต่อ หรือสั่งตัดขนาดพิเศษสามารถโทรได้ที่เบอร์โทร 086-7514329 คุณบังอร ประธานกลุ่ม
ทางด้านนายจิรทีปต์ สว่างดี ปลัด อบต.หนองปลาไหล อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี พร้อมคณะผู้บริหารของ อบต.ได้นำกลุ่มอาชีพต่าง ในพื้นที่ ประมาณ 70 คนทั้งชายหญิงมาศึกษาดูงานที่วิสาหกิจชุมกลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรดอนคา ตำบลดอนคา นายจิรทีปต์ สว่างดี ปลัด อบต.หนองปลาไหล กล่าวว่าจากการศึกษากลุ่มอาชีพต่างๆเกือบทั่วประเทศพบว่าที่วิสาหกิจชุมกลุ่มมุ้งแม่บ้านเกษตรกรดอนคา แห่งนี้เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งผลิตมุ้งที่มีคุณภาพได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน มีการต่อยอดพัฒนารูปแบบที่สวยงามมีหลากหลายรูปแบบ แล้วยังมีสินค้าอื่นซึ่งเป็นสินค้าแลกเปลี่ยนอีกหลายหลาย เป็นที่น่าสนใจจึงพากลุ่มอาชีพในพื้นที่มาศึกษาดูวิธีการผลิต การออกแบบ การบริหารกลุ่มและการตลาด ของที่นี่ซึ่งตลาดเขาไกลมาก ดังนั้นเพื่อให้กลุ่มอาชีพในพื้นที่ของตนซึ่งก็มีกลุ่มเย็บมุ้ง แต่ยังไม่เข้มแข็งตลาดก็ไม่แน่นอนได้นำเอาความรู้ต่างๆจากการดูงานที่ไปพัฒนาต่อยอด ผลิตภัณฑ์สินค้าของกลุ่มรวมทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดของกลุ่มอีกทางหนึ่งด้วยตราบใดที่ยังมียุงมุ้งแม่บ้านดอนคาจะอยู่เป็นคู่ปรับและป้องกันยุงตลอดไป ประธานกลุ่มบอก.
ภาพข่าว : ภัทรพล พรมพัก ทีมข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี//รายงาน
